ภาษาไทยกลาง: ดอกทอง
เกรงผู้อ่านจะเอียนกลิ่นปลาแดกซะก่อน ขอสลับด้วยภาษาไทยกลางบ้าง วันนี้ขอเสนอคำว่า "ดอกทอง" ซึ่งพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความหมายไว้ว่า:
ดอกทอง น. หญิงใจง่ายในทางประเวณี (เป็นคำด่า).
แต่คำนี้ ชวนให้สงสัย ว่าทำไมถึงกลายเป็นคำด่า ทั้งๆ ที่แต่ละคำที่มาประสมกันก็มีความหมายดี และนาง "สุวรรณมาลี" ในเรื่องพระอภัยมณี ก็ไม่ได้เป็นหญิงเช่นว่า
หลังจากนึกตามประสบการณ์ทางภาษาของตัวเอง ก็สรุปว่า คำนี้น่าจะมาจากภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "หลกท่ง" ซึ่งเป็นคำด่าที่มีความหมายตามตัวอักษรที่แสบสัน แปลว่า "แดงเหมือนเหล็กเผาไฟ" ใช้กับหญิงที่มักมากในกามารมณ์
ที่ใช้คำว่า "ความหมายตามตัวอักษร" ก็เพราะว่า คนจีนแต้จิ๋วนั้น ชอบใช้คำพูดโผงผาง บางครั้ง การใช้คำด่ากับลูกหลาน ก็เป็นการแสดงความเอ็นดู เหมือนในหนังจีนจะได้ยินคำว่า "เด็กโง่" อยู่เรื่อย คำว่า "หลกท่ง" นี้ ก็อาจจะใช้ตอนที่เห็นลูกสาวหรือหลานสาวแสดงกิริยาม้าดีดกะโหลก แล้วรู้สึกมันเขี้ยว อยากอบรม ดังนั้น ลูกหลานจีนจะคุ้นกับคำด่าประเภทนี้ และคำอื่นๆ อีกมากมาย (ไว้มีโอกาสค่อยเล่าทีหลัง) โดยไม่รู้สึกว่าถูกปรามาสตามนั้นจริงแต่อย่างใด
เข้าใจว่า คนไทยจะยืมคำ "หลกท่ง" นี้มาจากคนจีนแต้จิ๋ว โดยถ่ายสำเนียงกลับเพราะคิดว่าคนจีนพูดไม่ชัด น่าจะหมายถึงคำว่า "ดอกทอง" มากกว่า เลยใช้ "ดอกทอง" ด่าผู้หญิงเรื่อยมา ซึ่งก็มีทั้งด่าแบบเอ็นดูตามแบบคนจีน และด่าแบบเอาจริงเอาจัง
อนึ่ง ถ้าแปลคำว่า "ดอกทอง" กลับเป็นภาษาจีนคำต่อคำว่า "กิมฮวย" (金花) ก็ไม่ได้มีความหมายเป็นคำด่า แต่หมายถึง "ดอกไม้สีทอง หรือ ดอกไม้ทองคำ" เหมือนกัน ดังนั้น คำ "ดอกทอง" นี้จึงอยู่ในเฉพาะบริบทสังคมไทย-จีนแต้จิ๋วเท่านั้นจริงๆ
ความคิดเห็น
หลกท่ง ในภาษาจีนแต้จิ๋วจริงๆแล้วแปลไม่ได้ความอะไร ไม่มีความหมายเลยครับ ไม่ได้แปลว่า "แดงเหมือนเหล็กเผาไฟ" แต่อย่างใด
ทับศัพท์มาจากภาษาไทยว่า "ดอกทอง" ครับ
คนจีนแต้จิ๋วนอกประเทศไทยไม่มีใครรู้จักคำนี้เลย
ส่วนดอกทองจะมาจากไหน อันนี้ไม่รู้เหมือนกันครับ
:-)
ในภาษาแต้จิ๋วยังมีคำในตระกูล "ลก" นี้อีกหลายคำ จึงค่อนข้างแน่ใจว่ามาจากภาษาแต้จิ๋วครับ
ผิดถูกประการใดโปรดชี้แนะ
http://draco.exteen.com/20050306/entry
จะ มี คน กลับ มา อ่าน blog นี้ อีก มั้ย อะ?
(ถ้า กลับ มา อ่าน ก็ บอก ด้วย นะ.)
ผมลองไปค้นคำนี้ดูที่ http://www.gaginang.org/
ปรากฎว่าเจอครับ!!! (ลองให้แปลคำว่า bitch ดู)
เรื่องที่น่าคิดคือ ไม่มีตัวอักษรจีนกำกับไว้ ซึ่งเป็นไปได้ 2 ประการ
1. คำนี้เป็นภาษาพูดของคนแต้จิ๋ว (ที่เรียกกันว่า โถวอ่วย)
2. คำนี้ไม่ใช่ภาษาแต้จิ๋วแท้ แต่เป็นคำที่คนแต้จิ๋วบางที่รับมาจากภาษาพื้นเมือง ผมลองทดสอบสมมติฐานนี้โดยการให้แปลคำว่า market ดู พบว่าใน dic มีคำว่า dak lak ซึ่งอันนี้ผมรู้แน่ว่ามาจาก "ตลาด" และคนแต้จิ๋วที่อื่นไม่รู้จักคำนี้กัน
แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับสมมติฐานที่ว่ามาจาก เหลาตาน นะครับ มีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ภาษาที่คนแต้จิ๋วใช้ทั่วไปนะครับ
สรุปได้ว่า หลกท่ง นี่คำแต้จิ๋วแน่ครับ ไม่ได้มาจากดอกทอง
ทีนี้เหลือแค่ว่า ดอกทอง มาจาก หลกท่ง หรือเปล่า
แต่ทำไมผู้ชายมีแฟนหลายคน เค้าไม่เห็นมีบัญญัติไว้เลย
ทำไมผู้หญิงกับผู้ชายถึงมีสิทธิในบางเรื่องไม่เท่ากัน
******** ใครรู้ช่วยตอบหน่อย*********
http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/
ที่มาของการใช้เป็นคำด่าทอในภาษาไทย
ในสมัยอดีต ชาวบ้านมักจะเลี้ยงไก่ไว้ในบริเวณบ้าน ตัวเหี้ยมักจะมาขโมยไก่ของชาวบ้านลากไปกินในน้ำ ทำให้เป็นสัตว์ที่ผู้คนเกลียดมาก จนถูกนำมาใช้เรียกคนไม่ดี และกลายเป็นคำด่าทอมาจนปัจจุบัน อีกคำหนึ่งที่ใช้ด่าทอกันก็คือ "ดอก" ก็เพราะว่าลายบนตัวเหี้ยนั้นจะเป็นลายดอก (ไม่เหมือนกันกับตะกวดหรือสัตว์ตระกูลเดียวกันที่มีลายเป็นลายอื่นๆ ไม่ใช่ลายดอก) [ต้องการอ้างอิง] คำนี้จึงเป็นคำด่าผู้หญิงที่ประพฤติตนไม่ดี อนึ่ง มีความเชื่อว่าถ้าตัวเงินตัวทองขึ้นบ้านใคร บ้านนั้นจะมีแต่ความโชคร้าย จึงเปลี่ยนชื่อเรียกให้ฟังมีสิริมงคล โดยเรียกว่า "ตัวเงินตัวทอง"
ข้อมูล ; วิกิพีเดีย
"THE STUDY OF LOANWORDS BETWEEN
CHINESE LANGUAGE AND MALAY LANGUAGE
IN MALAYSIA(CHOW CHAI KHIM)"
เป็นคำด่าว่า "อีเหี้ย" แบบสุภาพแกมประชดประชัน
มาหลักฐานปรากฎมาตั้งแต่ในวรรณคดีเรื่องพระสุธน มโนราห์